วิธีรับมือ ตม.เกาหลี
สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะมาสอนมือใหม่ในการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้นั้นเองนะค่ะ
หลายคนคงได้ข่าวเรื่อง"ตม.เกาหลี"แล้วกลัวว่าจะไม่ผ่านกันใช่ไหมค่ะ แต่ทางเราก็ต้องเข้าใจว่าคนไทยบางคนเคยไปทำเรื่องเอาไว้ แต่ถ้าเราตั้งใจจะมาเที่ยวกันจริงๆล่ะก็นะก็ผ่านได้อยู่แล้ว ทุกคนสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลยนะค่ะ
1.การแต่งกาย
ความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญกันใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้นเราต้องจัดการตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า คือการใส่เสื้อผ้าที่ปกติไม่เวอร์จนเกินไป แต่งให้ดูสุภาพเรียบร้อย อาจจะเป็นเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่แต่งแบบจะไปเดินรันเวย์คือการใส่เสื้อผ้าที่มีขน การใส่ส้นสูงหรือการใส่ที่ครอบหู ท่องเอาไว้ด้วยว่าอยู่สนามบินนะไม่ใช่รันเวย์ ใส่เวอร์เกินไปก็จะเด่นมาก แล้วถ้าตม.ถามอะไรก้ให้ยิ้มแย้มเอาไว้เสมออย่าไปทำหน้าบึ้งหรือหงุดหงิด แล้วก็อย่าลนลานเวลาโดนถามอะไร ไม่งั้นโดนพาเข้าห้องดำแน่ๆ
2.พ็อกเก็ตมันนี่
เราต้องเตรียมเงินสดกันเอาไว้สักหน่อยนะค่ะ ควรเตรียมแลกเงินสดไว้ให้พอดีกับจำนวนวันที่เราจะอยู่ในเกาหลี คำนวณไว้คร่าวๆ เลยว่าจะใช้ช็อปปิ้งเท่าไหร่ จ่ายค่าอาหารแต่ละวันเท่าไหร่ ถ้าพกมาน้อยเกินไปอาจโดนมองว่ามาแอบหางานทำใช่มั้ย ทางที่ดีลองจัดแผนการใช้เงินเผื่อไว้ด้วย ถ้าโดนเรียกถามจะได้อธิบายได้ บัตรเครดิตก็สำคัญนะ เตรียมไว้ให้พร้อมจะได้ใช้ยืนยันว่าฉันมีตังค์นะเธอ หรือจะกันเหนียวพกสำเนาบุ๊กแบงค์มาด้วยก็ได้ ยืนยันไปเลยว่าไม่ได้มีเจตนาแอบเข้ามาทำงานแน่นอน!
ยกตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ สำหรับไปเที่ยวเกาหลีต่อคน
- ค่าอาหารมื้อหลัก มื้อละ 200-500 บาท (ไม่รวมอาหารกินเล่นข้างทาง, มินิมาร์ต, เครื่องดื่มจำพวกชา, กาแฟ)
- ค่าเดินทาง (รถไฟใต้ดิน, รถบัส) วันละ 150-200 บาท (ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและระยะทาง)
- ค่าที่พัก มีตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่น (ในกรณีที่มีการชำระล่วงหน้าแล้ว ให้เตรียมเอกสารยืนยันการจองมาเป็นหลักฐานด้วย)
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น วัด, วัง, สวนสนุก ตั้งแต่ 90 – 1,500 บาท แล้วแต่สถานที่
- ค่าช้อปปิ้ง แล้วแต่ศรัทธา
สมมติว่า ไป 5 วัน ก็ควรจะมีเงินวอนติดตัวไปซัก 320,000-400,00 วอน (10,000-12,000บาท) เป็นอย่างน้อย
3. เอกสารสร้างความน่าเชื่อถือ
เตรียมเอกสารต่างๆ ที่”อาจ”ต้องใช้ยืนยันสถานะตัวตนของเรา ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน, เอกสารรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษพร้อมประทับตราบริษัทไปเล้ย) ที่ ยืนยันว่าเรามีรายได้ มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ตั๋วเครื่องบินขากลับ แสดงให้เห็นถึงกำหนดการเดินทางที่แน่ชัด ว่าฉันกลับไทยแน่ ไม่ต้องห่วง!, รวมไปถึงแพลนการเดินทางในแต่ละวัน แผนที่ต่างๆ เช่น แผนที่รถไฟใต้ดิน แผนที่ของจังหวัดที่เราจะไป แม้แต่โบรชัวร์สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลี ยัดไปให้หมด ให้เขารู้ว่า ฉันเห็นสถานที่ว่าสวยฉันถึงมาเที่ยวนะ ฉันมาเพื่อเที่ยวจริงจริ๊งงงง
ที่สำคัญอีกอย่างคือใบจองที่พักและที่ตั้งของที่พัก และในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ อย่าลืมนำใบเปลี่ยนชื่อที่เป็นภาษาอังกฤษหรือพาสปอร์ตเล่มเก่ามานั่งยัน นอนยันด้วย เพราะถ้าเค้าดูข้อมูลแล้วชื่อเราไม่ตรงกับครั้งที่แล้ว บอกเลยว่างานนี้คุยกันอีกยาวแน่ๆ
4. เตรียมตอบคำถาม
ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องตอบคำถามของ ตม. แน่นอนว่าเราควรศึกษาพวกคำถามที่เขาถามบ่อยๆ แล้วก็หัดพูดไว้ เวลาตอบคำถามก็ตอบแบบมั่นใจ อย่าอ้ำอึ้ง สบตาให้ ตม.แบบสวยๆ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เท่านี้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงล้าว
มาดูตัวอย่างคำถามที่ ตม. มักจะถามบ่อยๆ พร้อมคำตอบแบบง่ายๆ กันดีกว่า
Q : What is the purpose of your visit? (คุณมาที่นี่ทำไม)
A : For travel (มาเที่ยว) // Visit relatives (มาเยี่ยมญาติ) // For business (มาทำงาน)
Q : How long will you stay? (คุณจะพักอยู่กี่วัน)
A : 5 days (5 วัน) // 2 weeks ( 2 สัปดาห์) บอกไปตามตรงนะ
Q : Are you travelling alone or with someone?
A : Alone (คนเดียว) // With my family (มากับครอบครัว) // With a tour (มากับทัวร์)
Q : Where will you visit? (จะไปเที่ยวไหนบ้าง)
A : ก็บอกชื่อสถานที่ตามแพลนของเราไป
Q : Where will you stay during the trip? (คุณจะพักอยู่ที่ไหน)
A : บอกชื่อโรงแรมที่เราจะพักพร้อมยื่นใบจองห้องพักไปด้วย
หลายคนคงได้ข่าวเรื่อง"ตม.เกาหลี"แล้วกลัวว่าจะไม่ผ่านกันใช่ไหมค่ะ แต่ทางเราก็ต้องเข้าใจว่าคนไทยบางคนเคยไปทำเรื่องเอาไว้ แต่ถ้าเราตั้งใจจะมาเที่ยวกันจริงๆล่ะก็นะก็ผ่านได้อยู่แล้ว ทุกคนสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลยนะค่ะ
1.การแต่งกาย
ความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญกันใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้นเราต้องจัดการตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า คือการใส่เสื้อผ้าที่ปกติไม่เวอร์จนเกินไป แต่งให้ดูสุภาพเรียบร้อย อาจจะเป็นเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่แต่งแบบจะไปเดินรันเวย์คือการใส่เสื้อผ้าที่มีขน การใส่ส้นสูงหรือการใส่ที่ครอบหู ท่องเอาไว้ด้วยว่าอยู่สนามบินนะไม่ใช่รันเวย์ ใส่เวอร์เกินไปก็จะเด่นมาก แล้วถ้าตม.ถามอะไรก้ให้ยิ้มแย้มเอาไว้เสมออย่าไปทำหน้าบึ้งหรือหงุดหงิด แล้วก็อย่าลนลานเวลาโดนถามอะไร ไม่งั้นโดนพาเข้าห้องดำแน่ๆ
2.พ็อกเก็ตมันนี่
เราต้องเตรียมเงินสดกันเอาไว้สักหน่อยนะค่ะ ควรเตรียมแลกเงินสดไว้ให้พอดีกับจำนวนวันที่เราจะอยู่ในเกาหลี คำนวณไว้คร่าวๆ เลยว่าจะใช้ช็อปปิ้งเท่าไหร่ จ่ายค่าอาหารแต่ละวันเท่าไหร่ ถ้าพกมาน้อยเกินไปอาจโดนมองว่ามาแอบหางานทำใช่มั้ย ทางที่ดีลองจัดแผนการใช้เงินเผื่อไว้ด้วย ถ้าโดนเรียกถามจะได้อธิบายได้ บัตรเครดิตก็สำคัญนะ เตรียมไว้ให้พร้อมจะได้ใช้ยืนยันว่าฉันมีตังค์นะเธอ หรือจะกันเหนียวพกสำเนาบุ๊กแบงค์มาด้วยก็ได้ ยืนยันไปเลยว่าไม่ได้มีเจตนาแอบเข้ามาทำงานแน่นอน!
ยกตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ สำหรับไปเที่ยวเกาหลีต่อคน
- ค่าอาหารมื้อหลัก มื้อละ 200-500 บาท (ไม่รวมอาหารกินเล่นข้างทาง, มินิมาร์ต, เครื่องดื่มจำพวกชา, กาแฟ)
- ค่าเดินทาง (รถไฟใต้ดิน, รถบัส) วันละ 150-200 บาท (ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและระยะทาง)
- ค่าที่พัก มีตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่น (ในกรณีที่มีการชำระล่วงหน้าแล้ว ให้เตรียมเอกสารยืนยันการจองมาเป็นหลักฐานด้วย)
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น วัด, วัง, สวนสนุก ตั้งแต่ 90 – 1,500 บาท แล้วแต่สถานที่
- ค่าช้อปปิ้ง แล้วแต่ศรัทธา
สมมติว่า ไป 5 วัน ก็ควรจะมีเงินวอนติดตัวไปซัก 320,000-400,00 วอน (10,000-12,000บาท) เป็นอย่างน้อย
3. เอกสารสร้างความน่าเชื่อถือ
เตรียมเอกสารต่างๆ ที่”อาจ”ต้องใช้ยืนยันสถานะตัวตนของเรา ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน, เอกสารรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษพร้อมประทับตราบริษัทไปเล้ย) ที่ ยืนยันว่าเรามีรายได้ มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ตั๋วเครื่องบินขากลับ แสดงให้เห็นถึงกำหนดการเดินทางที่แน่ชัด ว่าฉันกลับไทยแน่ ไม่ต้องห่วง!, รวมไปถึงแพลนการเดินทางในแต่ละวัน แผนที่ต่างๆ เช่น แผนที่รถไฟใต้ดิน แผนที่ของจังหวัดที่เราจะไป แม้แต่โบรชัวร์สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลี ยัดไปให้หมด ให้เขารู้ว่า ฉันเห็นสถานที่ว่าสวยฉันถึงมาเที่ยวนะ ฉันมาเพื่อเที่ยวจริงจริ๊งงงง
ที่สำคัญอีกอย่างคือใบจองที่พักและที่ตั้งของที่พัก และในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ อย่าลืมนำใบเปลี่ยนชื่อที่เป็นภาษาอังกฤษหรือพาสปอร์ตเล่มเก่ามานั่งยัน นอนยันด้วย เพราะถ้าเค้าดูข้อมูลแล้วชื่อเราไม่ตรงกับครั้งที่แล้ว บอกเลยว่างานนี้คุยกันอีกยาวแน่ๆ
4. เตรียมตอบคำถาม
ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องตอบคำถามของ ตม. แน่นอนว่าเราควรศึกษาพวกคำถามที่เขาถามบ่อยๆ แล้วก็หัดพูดไว้ เวลาตอบคำถามก็ตอบแบบมั่นใจ อย่าอ้ำอึ้ง สบตาให้ ตม.แบบสวยๆ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เท่านี้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงล้าว
มาดูตัวอย่างคำถามที่ ตม. มักจะถามบ่อยๆ พร้อมคำตอบแบบง่ายๆ กันดีกว่า
Q : What is the purpose of your visit? (คุณมาที่นี่ทำไม)
A : For travel (มาเที่ยว) // Visit relatives (มาเยี่ยมญาติ) // For business (มาทำงาน)
Q : How long will you stay? (คุณจะพักอยู่กี่วัน)
A : 5 days (5 วัน) // 2 weeks ( 2 สัปดาห์) บอกไปตามตรงนะ
Q : Are you travelling alone or with someone?
A : Alone (คนเดียว) // With my family (มากับครอบครัว) // With a tour (มากับทัวร์)
Q : Where will you visit? (จะไปเที่ยวไหนบ้าง)
A : ก็บอกชื่อสถานที่ตามแพลนของเราไป
Q : Where will you stay during the trip? (คุณจะพักอยู่ที่ไหน)
A : บอกชื่อโรงแรมที่เราจะพักพร้อมยื่นใบจองห้องพักไปด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น